Monday, April 1, 2013

ภาษาอังกฤษกูที่ยูเอส

ตอนเรียนมหาลัย
ผมได้เกรดวิชาภาษาอังกฤษดีมาก
เรียนๆ ขี้ๆ ก็ได้ B ได้ A

อยู่บ้าน ผมอ่านหนังสือหุ้นภาษาอังกฤษ
อ่าน manga เว็บฝรั่ง อ่าน reader digest (ENG)
ดูหนังไม่พากย์ (แต่เปิดซับ)
ฟังข่าว (bbc)

ตอนนี้มา work&travel ที่ north dakota - USA
ทำงานที่ซุปเปอร์มาเกต มาเป็น bagger (คนหยิบของใส่ถุงหน้าแคชเชียร์)

ตรัสรู้ความจริงเลยครับ
โอ้ว ภาษาอังกฤษกรูกาก here here
เวลาเขาพูดไรมา มักจะต้อง ฮะ? what? again, please.

เจอคนจากทุกมุมโลก (แล้วสำเนียงมันจะหลากหลายขนาดไหน)
เจอพี่ดำจาก กาน่า, วอชิงตัน ดีซี, โตโก (พึ่งเคยได้ยิน ประเทศนี้)
เวียดนาม รัสเซีย ฯลฯ

มีรุ่นน้องคนนึงอยู่ปี 2 เคยเปนนักเรียนแลกเปลี่ยนมาอยู่ us ปีนึง ตอนม.5
ทำหน้าที่เดียวกับผม แต่ตอนนี้ได้เลื่อนเป็นแคชเชียร์แล้ว งานสบาย ยืนอย่างเดียวแต่ใช้หูกับปากเยอะ ต้องทักทาย ต้องฟังออกว่าลูกค้าจะเอาไร (บุหรี่ น้ำแข็ง ฯลฯ) ต้องถามราคาเวลาติ๊ดแล้วไม่ขึ้น ต้องแก้ปัญหาจุกจิก

ส่วนป๋มเรอะ bagger
หยิบของใส่ถุง ว่างปุ๊บ โดนใช้เก็บรถเข็นหน้าลานจอดรถฮะ อากาศ-10 อย่างต่ำ โดนวันละ 3 ครั้งโดยเฉลี่ย ที่เหลือก็เก็บขยะ จัดชั้นวางสินค้า ฯลฯ

ดูๆแล้วเค้าคงเลื่อนให้คนภาษาอังกฤษดีก่อน
ส่วนผม ถึงเลื่อนให้เป็น ตูก็ไม่อยากเปน กลัวถามมาแล้วฟังไม่ออก T^T

เหนมะ แค่ภาษาดีกว่า งานก็สบายกว่าละ
เรื่องแบบนี้ เดี๋ยวประเทศไทยก็มี ไม่ต้องห่วง โดนแน่ๆ 55

ที่ผมรู้สึก มันคล้ายๆกับในกระทู้นี้เลย
http://pantip.com/topic/30303315

คำพูดที่ว่า ไทยไม่ใช่เมืองขึ้น ไม่่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ แม่มไม่ไหวครับ คงใช้ได้แค่รุ่นพ่อรุ่นแม่เราเท่านั้นแหละ ถึงไม่เจออังกฤษ ก็ยังมี spanish chinese อีก
(แต่ผมว่า english ยังใช้อีกนาน เพราะยังเป็นเบอร์หนึ่ง คิดดูว่ากว่าธุรกิจเบอร์ 2 จะแซงขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งมันนานแค่ไหน และอีกอย่าง ภาษามันเหมือน social network ยิ่งคนใช้เยอะยิ่งเจริญ เหมือน facebook, twitter)
ไว้ว่างๆจะมาเล่าเรื่องเล็กๆน้อยๆจาก US อีกน่ะครับ

ปล. ผมจำคำคมเท่ๆได้อันนึง - จงเปลี่ยนแปลงก่อนถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลง - แจ็ค เวลช์

ฝากไว้ครับ คนไหนที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ ลองหาโอกาสมาเข้าโครงการ work&travel , student exchange ไรพวกนี้นะครับ ไปรอเรียนจบค่อยฝึก มันช้าไปละ

No comments:

Post a Comment