คำว่า ‘ตลาดหุ้น’ มาจากคำสองคำ นั่นคือ
‘ตลาด (จิตวิทยามวลชน)’ และ ’หุ้น (พื้นฐานกิจการ)’ ดังนั้น
ถ้าเราเข้ามาลงทุนใน ‘ตลาดหุ้น’
เราก็ควรจะทำความเข้าใจกับมุมมองทั้งสองด้านนี้ เพราะในแต่ละปี
จะเกิดโอกาสในการลงทุนจากทั้งสองฝั่งนี้ให้เราอยู่เสมอๆ สำหรับคนที่เริ่มต้นเล่นหุ้นมาจากสายพื้นฐาน หรือสาย VI (แบบผม)
แล้วอยากจะลองหาเทคนิคหรือหลักการใหม่ๆ เข้ามาเสริมกับกลยุทธ์เดิมของตัวเอง
ผมขอแนะนำหนังสือ set นี้เลยครับ หลังจากที่ผมอ่านหมดแล้ว ก็พบว่าสามารถนำมาแก้ไขสิ่งที่เป็นจุดอ่อนในการลงทุนของผมได้อย่างดีมากๆ ถ้าเริ่มมาจากสายพื้นฐาน เราจะเก่งในเรื่อง Stock Selection & Valuation เป็นหลัก นั่นคือ เรารู้ว่าบริษัทนี้พื้นฐานดีหรือไม่ดี เพราะอะไร,
ราคาหุ้นตอนนี้ถูกหรือแพง, แนวโน้มธุรกิจเป็นอย่างไร,
จะประเมินมูลค่าหุ้นยังไง
และสามารถทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงหุ้นเน่าได้เป็นอย่างดีครับ แต่เราจะขาดปัจจัยสำคัญเหล่านี้ครับ ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สายพื้นฐานยังขาดไป - Timing จังหวะการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญในการชี้วัดผลตอบแทนของคุณ - Psychology จริงๆสายพื้นฐานก็มีให้แล้ว แต่อาจจะยังไม่รอบด้าน - Position ในการเทรด และการจัดพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งหนังสือชุดนี้จะสอนในเรื่องเหล่านี้ บางเล่มก็จะมีสอนเรื่อง stock
selection ให้ด้วย เช่น How I Made $2 million In The Stock Market ของ
Nicolas Darvas , How to Make Money in Stocks ของ O’neil แต่ถ้าคิดว่าอ่านทั้งหมดคงไม่ไหว เพราะไม่ค่อยมีเวลา ผมจะตัดให้เหลือ 3 เล่ม ที่ผมชอบที่สุดนั่นคือ - How I Made 2,000,000 In The Stock Market ของ Nicolas Darvas - How to Make Money in Stocks ของ William O’neil - Trade Like an O’Neil Disciple : How We Made 18,000% in the Stock Market ของ Gil Morales และ Chris Kacher เพราะ 3 เล่มนี้ ภาษาอ่านง่าย เนื้อหาครบทุกประเด็นสำคัญ และบางทีก็จะอ้างอิงเนื้อหาจากเล่มอื่นๆในรูปมาอธิบายให้ด้วย ซึ่งถ้าอ่านดูจะเห็นว่า 3 เล่มนี้จะมีแนวคิดคล้ายกันมาก เพราะ O’Neil ก็ยึดแนวคิดมาจาก Darvas ส่วน Trade Like an O’Neil Disciple คนเขียนก็เป็นลูกศิษย์ของ O’Neil
อีกที แต่เล่มนี้จะออกแนวภาคปฏิบัติจริงครับ เพราะทั้งสองคนเป็น fund
manager ให้กับบริษัทของ O’Neil แต่ถ้าพอจะมีเวลาว่าง
หรืออ่านพวกนี้แล้วสนุก ติดใจ ก็แนะนำให้อ่านทุกเล่มเลยคับ
รับรองว่าทุกเรื่องจะมีข้อคิดและมุมมองดีๆในการลงทุนให้แน่นอน หลังจากอ่านตำราพวกนี้แล้ว ผมคิดว่าทุกท่านน่่าจะมีหลักการและกลยุทธ์ในการลงทุนที่ดีขึ้นพอสมควรนะครับ บางคนอาจจะเห็นว่าหนังสือภาษาอังกฤษพวก
นี้แพง แต่ผมคิดว่า เราลงทุนค่าหนังสือไม่กี่พันบาท ได้ทั้งความรู้ เทคนิค
และหลักการใหม่ๆมาเสริม สามารถรักษาพอร์ตลงทุนและกำไรในช่วงตลาดแย่
แถมยังช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นเมื่อตลาดดี ดังนั้น
ผลตอบแทนในระยะยาวผมว่ายังไงก็มากกว่าค่าหนังสือหลายเท่าครับ ส่วนตัวผมเองนั้น
หลังจากเปิดใจยอมรับหลักการหลายๆแนวคิด
พยายามนำเอาข้อดีของแต่ละศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน (ยกเว้นสายมืด)
ก็ทำให้แนวคิดและกลยุทธ์การลงทุนของผมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน… เครดิตลิ้งค์ sarut homesite